ปรับมาตรการดูแลตัวเองให้เหมาะสม หากคุณเป็นโรคเกาต์
โรคเกาต์ (Gout) เป็นโรคที่เกิดจากระดับกรดยูริกในเลือดสูง จนทำให้เกิดการสะสมของผลึกกรดยูริกในข้อ ทำให้เกิดอาการปวดและอักเสบ เป็นที่รู้กันว่าโรคนี้มักส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก แต่ไม่ต้องกังวล เพราะเราสามารถปรับมาตรการดูแลตัวเองให้เหมาะสมได้! มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
- ใส่ใจกับการเลือกอาหาร
การเลือกอาหารที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญมากในการจัดการโรคเกาต์ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มี พรุน (purine) สูง เช่น
- สัตว์ปีก (เนื้อแดง)
- อาหารทะเล (ปลาซาร์ดีน, กุ้ง)
- เครื่องใน (ตับ)
ในทางกลับกัน ควรกินอาหารที่ช่วยลดกรดยูริก เช่น
- ผัก (บรอคโคลี่, แครอท)
- ผลไม้ (เชอร์รี่, กล้วย)
-
นมไขมันต่ำ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยล้างกรดยูริกออกจากร่างกาย น้ำเปล่าคือทางเลือกที่ดีที่สุด ควรตั้งเป้าหมายดื่มน้ำประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 2-3 ลิตร เพื่อช่วยให้ร่างกายขับกรดยูริกออกไปได้ดีขึ้น
- การออกกำลังกาย
การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการเกาต์ ดังนั้นการออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น
- เดินเร็ว
- ว่ายน้ำ
- ปั่นจักรยาน
ควรพยายามออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน และเลือกกิจกรรมที่เหมาะกับตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บ
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีแนวโน้มที่จะเพิ่มระดับกรดยูริกในร่างกาย โดยเฉพาะ เบียร์ ที่มีส่วนประกอบของพรุนสูง ลองเลี่ยงหรือจำกัดการดื่มให้มากที่สุดเพื่อป้องกันอาการปวดข้อ
- ปรึกษาแพทย์เป็นประจำ
ควรจัดตารางนัดหมายแพทย์เพื่อตรวจสอบระดับกรดยูริกในร่างกาย การติดตามอาการและการปรับการรักษาให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติและมีความสุข
สรุป
โรคเกาต์อาจสร้างความลำบากให้กับผู้ป่วย แต่การปรับมาตรการดูแลตัวเองสามารถช่วยให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น อย่าลืม ปรับในส่วนที่สามารถทำได้ และหมั่นปรึกษาแพทย์อยู่เสมอ เพื่อการดูแลที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณ!